วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช 1. พระราชประวัติ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพระนางเสือง ทรงมีพระนามเดิมว่า ราม พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ของอาณาจักรสุโขทัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1822 ต่อจากพ่อขุนบานเมือง ซึ่งเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) 2. วีรกรรมสำคัญ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีพระปรีชาสามารถในด้านการทำศึกสงครามตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ ดังจะเห็นได้จากเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 19 พรรษา พระองค์ได้เสด็จตามพระราชบิดาไปทำสงครามแย่งชิงเมืองตากกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และรบชนะขุนสามชน พระบิดาจึงเฉลิมพระนามให้ว่า รามคำแหง 3. พระราชกรณียกิจ อาณาจักรสุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องมาจากพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ของพระองค์ ดังนี้ 1. ด้านการเมืองการปกครอง พระองค์ทรงใช้รูปแบบการปกครองแบบ พ่อปกครองลูก กล่าวคือ พระองค์ทรงดูแลเอาใจใส่ในทุกข์สุขของราษฎร์เหมือนพระองค์เป็นพ่อ ส่วนราษฎรหรือไพร่ฟ้าคือลูก เมื่อราษฎรมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้มาสั่นกระดิ่งที่หน้าประตูวัง แล้วพระองค์ก็จะเสด็จออกมารับฟังเรื่องราว เพื่อทรงตัดสินปัญหาด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงทำสงครามขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางมากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในสมัยสุโขทัย 2. ด้านเศรษฐกิจ พระองค์ทรงโปรดให้สร้างทำนบกักเก็บน้ำที่เรียกว่า ทำนบาพระร่วง หรือสรีดภงค์ เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ พระองค์ทรงให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการค้าขายได้อย่างมีอิสระเสรี ไม่มีการเก็บภาษีผ่านด่านจาการาษฎร ที่เรียกว่า จกอบ ทำให้การค้าขายขยายออกไปอย่างกว้างขวาง และทรงโปรดให้สร้างเตาเผาเครื่องสังคโลกเป็นจำนวนมาก เพื่อผลิตสินค้าออกไปขายยังดินแดนใกล้เคียง 3. ด้านศิลปวัฒนธรรม พระองค์ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย ที่เรียกว่า ลายสือไทย และได้มีการรพัฒนามาเป็นลำดับจนถึงอักษรไทยในปัจจุบัน ทำให้คนไทยมีอักษรไทยาใช้มาจนถึงทุกวันนี้ โดยโปรดให้จารึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ สมัยสุโขทัยลงบนศิลา เมื่อ พ.ศ. 1826 เรียกว่า ศิลาจารึกหลักที่ 1 พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเป็นผู้นำในการสร้างศรัทธาให้ประชาชนเลื่อมใสในพระพุทธศานา พระองค์ทรงนิมนต์พระสงฆ์นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์ จากเมืองนครศรีธรรมราชที่กลับมาจากลังกา มาเผยแผ่คำสอนทางพระพุทธศาสนาแก่ราษฎร ซึ่งทำให้ชาวสุโขทัยเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและแสดงออกมาในรูปแบบศิลปกรรมด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างพระพุทธรูป วัด เจดีย์ เป็นต้น ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคงในอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งกลายเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาจนถึงปัจจุบัน ที่มาและได้รับอนุญาตจาก : เอกรินทร์ สี่มหาศาล และคณะ . ประวัติศาสตร์ ป.4 . พิมพ์ครั้งที่ 2 . กรุงเทพ ฯ : อักษรเจริญทัศน์
http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/1682-00/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น